พฤติกรรมการใช้ “ยาเสียตัว” มอมเหยื่อเพื่อประสงค์ร้ายของอาชญากร ยังคงใช้ได้ผลอยู่ทุกยุคสมัย และใช่เพียงหญิงสาวเท่านั้นที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ปัจจุบันผู้ชายเองก็มีโอกาสตกเป็นเหยื่อยาอันตรายตัวนี้ด้วยเช่นกัน
ตามคำสารภาพของ 3 ผู้ต้องหาแก๊งชายรักชาย ที่นำยาเสียตัวมาจำหน่ายผ่านทางโซเชียลมีเดียอย่างเฟซบุ๊กของตัวเอง หนำซ้ำยังมียาไอซ์จำหน่ายอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายอีกด้วย แต่ก็ไม่รอดเพราะถูกตำรวจจากกองบังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค 5 รวบตัวจับกุมได้ที่ จ.เชียงใหม่ ก่อนจะรับสิ้นว่า เคยใช้ยาเสียตัวที่ชื่อว่า “ยาจีเอชบี”หรือยาที่ใช้ทางการแพทย์ชื่อว่า Gamma Hydroxybutyrate ผสมในเครื่องดื่ม
3 ผู้ต้องหาที่ขายยาอันตราย “จีเอชบี” บอกว่า ยาเพียงแค่ 1 หลอดเล็ก ก็ทำให้ผู้ที่โดนวางยาถึงขั้นหมดเรี่ยวแรง ไม่ได้สติ แล้วคนร้ายก็จะพาตัวเหยื่อไปละเมิดทางเพศ แต่สำหรับผู้ต้องหากลุ่มนี้แล้ว ส่วนมากจะเน้นเหยื่อผู้ชาย
ข้อมูลจากแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจนายหนึ่ง เล่าให้ฟังถึงยาชนิดดังกล่าวว่า ยาจีเอชบีถือเป็นสารเสพติดที่เป็นยาอันตราย แต่อนุญาตให้ใช้ทางการแพทย์ได้ เพื่อให้ผู้ป่วยผ่าตัดสลบเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีการนำยาชนิดนี้ไปใช้ผิดประเภทในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย และทราบมาว่าขณะนี้มีการแพร่หลายของยาชนิดดังกล่าวอย่างเงียบๆ
ทั้งนี้ ผลของการใช้ยาจะทำให้ผู้เสพรู้สึกเคลิบเคลิ้ม สบาย รู้สึกอบอุ่น และพึงพอใจกับการที่ถูกสัมผัสร่างกาย
แต่หากใช้ในปริมาณที่มากเกินไปจะทำให้หมดสติ และอาจจะถึงขั้นเสียชีวิตได้อีกด้วย ซึ่งส่วนใหญ่คนร้ายมักจะนำไปใช้เพื่อทำให้เหยื่อไม่รู้สึกตัวในระยะเวลาแค่ 15 นาที หลังจากได้รับยา และจากนั้นจะหมดสติไปในเวลาไม่เกิน 30 นาที โดยจะหมดสติเป็นเวลานานถึง 34 ชั่วโมง ซึ่งทำให้ช่วงเวลาดังกล่าวคนร้ายก่อเหตุได้
“ยาจีเอชบีลักษณะจะเป็นผงสีขาวคล้ายโคเคน วิธีการใช้ก็จะนำไปผสมกับเหล้าหรือเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ หากคนร้ายใช้เพียงปริมาณแค่นิดเดียวเพียง 4 กรัม ก็อาจจะทำให้เหยื่อหมดสติ และไม่สามารถขัดขืนร่างกายได้ ทำให้เป็นช่องว่างของการก่อเหตุข่มขืนตามมา” นายแพทย์คนเดิม เล่า
ขณะที่การป้องกันตัวเองเพื่อไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่ใช้ยาชนิดดังกล่าวเพื่อเล็งผลก่อเหตุพ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล จิตแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ ในฐานะรองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) แนะนำว่า ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือกลุ่มสุภาพสตรี ก่อนจะไปนั่งกินดื่มตามร้านอาหารหรือผับบาร์สถานที่ต่างๆ ก็ตาม ควรจะมีเพื่อนที่สนิทและเชื่อใจไว้ใจได้เดินทางไปด้วย เพื่อคอยช่วยเหลือในกรณีที่อาจจะเกิดปัญหา
รองโฆษก สตช. บอกว่า สิ่งสำคัญคือ ต้องระมัดระวัง แก้วน้ำหรือแก้วเหล้า ห้ามดื่มจากแก้วที่ผู้อื่นหยิบยื่นให้เด็ดขาด เพราะความปลอดภัยในแก้วนั้นอาจจะไม่มีเลย และสุ่มเสี่ยงอันตราย อาจจะถูกผู้ไม่หวังดีแอบใส่ยาเพื่อประสงค์ร้ายได้ แก้วเครื่องดื่มควรจะต้องอยู่กับตัวตลอดเวลา ที่สำคัญอย่าไว้ใจคนแปลกหน้าที่เข้ามาตีสนิทอย่างเด็ดขาด
“เพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันจะมีส่วนช่วยอย่างมาก คือ มาด้วยกันก็อยากให้กลับด้วยกัน เพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้หากรู้สึกว่าตัวเองมึนเมา และสงสัยว่าอาจจะถูกมอมยา ให้รีบบอกเพื่อนที่ไปด้วยกันทันที เพื่อให้ช่วยเหลือประคองตัวเองกลับบ้านพัก หรือให้ออกจากพื้นที่นั้นให้เร็วที่สุด” พ.ต.ท.พญ.อัญชุลี ย้ำวิธีป้องกันตัว
หรือหากเป็นไปได้ การไม่ออกไปเที่ยวไหน และการระมัดระวังตัวเองอย่างดีที่สุด ก็จะเป็นทางออกเพื่อป้องกันตัวเองไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของเหล่าอาชญากรที่มีอยู่มากมายในสังคม และจ้องจะหาทาง “วางยา” เหยื่อเพื่อประสงค์ร้าย
ไม่ว่าเพศใดวัยใดก็อยู่ในความเสี่ยงตกเป็นเหนือมิจฉาชีพที่ใช้ยาอันตรายตัวนี้เป็นเครื่องมือได้ทั้งนั้น |