Archive for September, 2012

PostHeaderIcon เตรียมรับมือน้ำท่วม

นายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤติน้ำในประเทศไทยปี 2555 ว่า ปีนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีร่องมรสุมและพายุพาดผ่านประเทศไทย นานผิดปกติโดยยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ ซึ่งตามปกติแล้วร่องมรสุมจะอยู่ประมาณ 4-7 วัน แต่ปีนี้อยู่มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งร่องมรสุมที่พาดผ่านนานก็จะทำให้ฝนตกหนัก จึงถือว่ากรุงเทพมหานคร มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมที่มาจากน้ำฝน

สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีพายุเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม เหมือนปี 2533 ,2539 และ 2549 ที่ทำให้น้ำท่วมภาคกลางซึ่งมีโอกาสสูงมาก และประมาณวันที่ 29 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ คาดว่า จะมีฝนตกหนักซึ่งต้องจับตามองว่ากรุงเทพมหานคร จะรับมืออย่างไร ขณะที่ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร กับรัฐบาลยังไม่บูรณาการแผนงานร่วมกัน

ส่วนข้อแนะนำนั้นขณะนี้มีวิธีเดียวคือพร่องน้ำในคลอง เพราะการขุดลอกคูคลองอาจไม่ทันการ พร้อมทั้งต้องหารือกับรัฐบาลว่า จะต้องไม่ปล่อยน้ำเหนือผ่านเข้ามา นอกจากนั้น การที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณสร้างพนังกั้นน้ำให้สูงขึ้น อาจจะยิ่งทำให้กรุงเทพมหานครมีความเสี่ยงมากขึ้น หากฝนตกหนักเป็นเวลานาน และเขื่อนก็เริ่มปล่อยน้ำลงมา ซึ่งอาจเกิดปัญหาเหมือนกับเมืองนิวออร์ลีนส์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อเกิดพายุกำแพงก็จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำ

สำหรับน้ำท่วมภาคกลางนั้นมีหลายปัจจัยไม่ใช่เฉพาะน้ำเหนือเท่านั้น ซึ่งปีนี้น่าห่วงเรื่องร่องมรสุมที่อยู่นานผิดปกติ อีกทั้งน้ำเหนือก็คาดว่าจะมาถึงกรุงเทพมหานคร ประมาณเดือนตลุาคมนี้เช่นกัน และช่วงนั้นก็อาจจะมีน้ำทะเลหนุนด้วยซึ่งถ้า 3 น้ำมาเจอกันกรุงเทพฯ ก็อาจต้องเจอปัญหาใหญ่

ส่วนในระยะยาวกรุงเทพมหานครจะต้องปรับท่อระบายน้ำให้ใหญ่ขึ้นจากที่ระบายได้ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงเป็น 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงและขุดลอกคูคลองให้ลึกขึ้น ขณะที่แนวคิดที่จะก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นคิดว่าเขื่อนไม่ใช่มาตรการเบ็ดเสร็จที่ให้แก้ปัญหาทั้งหมด แต่จะต้องมีการบริหารจัดการน้ำที่ดีหากบริหารจัดการไม่ดีเขื่อนอาจจะกลายเป็นปัญหา รัฐบาลต้องให้คำตอบเรื่องความคุ้มค่าให้ได้

Mthai News

เกาะติด ข่าวน้ำท่วม 2555

PostHeaderIcon จีนเซอร์ไพรส์! ผลิต “เครื่องรีดน้ำเชื้อคน”

ประเทศจีนมักจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราอยู่เสมอไม่ขาดสาย ล่าสุดโรงพยาบาลในเมืองหนานจิง จังหวัดเจียงซู ได้เปิดตัว “เครื่องรีดสเปิร์มคน” ที่มีหน้าตาเหมือนเครื่องคูลเลอร์กดน้ำเย็น แต่มันแตกต่างตรงที่บริเวณกลางเครื่อง จะมีท่อสำหรับ ใส่ “ท่อผลิตสเปิร์ม” ที่จะขยับเข้าๆออกๆ จำลองกิจกรรมเข้าจังหวะ ให้หนุ่มๆตี๋ทั้งหลายที่ต้องการบริจาคสเปิร์มได้ขับน้ำอสุจิออกมาโดยไม่ต้องเมื่อยมือ

โดยลูกเล่นของเครื่องดังกล่าวทำให้เราต้องร้องว้าวววว!! เพราะมันสามารถปรับระดับ “ท่อ” ให้เหมาะกับความสูงของหนุ่มๆ และที่สำคัญ สามารถปรับ ความเร็ว ความถี่ ขนาดของท่อให้พอดีกับเจ้าหนูของหนุ่ม รวมไปถึงความอุ่นของท่อนั้นได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าแค่หนุ่มๆยืนเฉยๆดูหนัง “กระตุ้นอารมณ์”
บนหน้าจอบนตัวเครื่องนั้น ก็จะเสร็จสมอารมณ์หมายได้โดยไม่ต้องออกแรง
เครื่องดังกล่าวผลิตมาก็เพื่อแก้ไขปัญหาที่หนุ่มๆหลายคนเขินอายที่จะบริจาคอสุจิด้วย “วิธีเดิมๆ” สนนราคาก็ประมาณ 84000 บาท

http://men.mthai.com/men-around/6932.html

PostHeaderIcon เจ้าของสมาร์ทโฟนระวัง ถูก”ดูดเงิน”ไม่รู้ตัว

 
 


“ลุคเอาท์” บริษัทด้านความปลอดภัยในระบบโทรศัพท์มือถือ ออกมาเตือนบรรดาเจ้าของโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนทั่วไปว่า ระวังจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่พุ่งเป้าปล่อยมัลแวร์ ที่จะทำหน้าที่ดูดเงินจากเหยื่อโดยเฉพาะเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ไวรัสมือถือในรูปแบบต่างๆ ที่ทำหน้าที่เดียวกันนั่นคือ ลอบดูดเงินจากผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างพรวดพราด จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 29 เปอร์เซ็นต์ของมัลแวร์ทั้งหมด กลายเป็น 62 เปอร์เซ็นต์แล้วในเวลานี้

เควิน มาฮาฟฟีย์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ “ลุคเอาท์” เชื่อว่า สาเหตุของการเพิ่มอย่างพรวดพราดดังกล่าวนั้น เป็นเพราะอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังไวรัสหรือมัลแวร์ต่างๆ ดังกล่าวเริ่มมั่นใจแล้วว่า ไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ เหล่านั้นใช้งานได้ผล หลังผ่านช่วงของการทดลองใช้มาระยะหนึ่งก่อนหน้านี้ มาฮาฟฟีย์ชี้ว่า ในช่วง 2-3 เดือนหลังมานี้บรรดาแก๊งอาชญากรไฮเทคเหล่านี้เริ่มยุติการทดลองกรรมวิธีต่างๆ ที่หลากหลาย แล้วหันมาใช้กรรมวิธีที่ได้ผลกันแบบเป็นอุตสาหกรรม ปูพรมเพื่อล่าเหยื่อกันขนานใหญ่ เพื่อให้ได้เงินมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

วิธีการดูดเงินจากโทรศัพท์มือถือโดยไม่ให้เหยื่อรู้ตัวนั้น มีตั้งแต่การเขียนแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งานจริง แต่จะกลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาในทันทีที่ติดตั้งลงในโทรศัพท์ หลังจากนั้น ก็จะทำอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้เจ้าของแอพพ์ดังกล่าวสามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการ (โอเปอเรเตอร์) ที่จะมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการคือเหยื่ออีกต่อหนึ่ง โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะปรากฏอยู่ในใบเสร็จรับเงิน ซ้ำๆ เป็นระยะๆ

อีกวิธีการหนึ่งเป็นการบังคับให้โทรศัพท์ที่ตกเป็นเหยื่อ ลิงก์เข้าหาเว็บไซต์บางเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ เพื่อเรียกเก็บเงินเป็นค่าการโฆษณาจากเว็บไซต์ดังกล่าว ในขณะที่ผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือต้องเสียเงินค่าเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นดังกล่าวนั้นไปฟรีๆ เช่นเดียวกันกับแอพพลิเคชั่นหรือไวรัสที่เขียนขึ้นเพื่อบังคับให้โทรศัพท์ของเราเปิดโฆษณาบางอย่างซ้ำๆ เพื่อหาเงินจากการโฆษณา แต่กลายเป็นการใช้งานที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นของเจ้าของโทรศัพท์มือถือ

มาฮาฟฟีย์ระบุว่า เพราะการระดมปูพรมในบางพื้นที่เป็นพิเศษ ทำให้ในช่วงที่มีการเริ่มต้นใช้มัลแวร์ดูดเงินกันขนานใหญ่นั้น มีการระบาดของไวรัสและมัลแวร์เหล่านี้เป็นพิเศษในบางพื้นที่ อย่างเช่นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลุคเอาท์ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในรัสเซียมากถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ ติดไวรัสและมัลแวร์เหล่านี้ เช่นเดียวกันกับอินเดีย และจีน ซึ่งมีสัดส่วนการติดไวรัสและมัลแวร์สูงมากเช่นเดียวกัน

นักวิเคราะห์ของลุคเอาท์ เชื่อว่า มีผู้เขียนมัลแวร์ และไวรัสเหล่านี้เพียงไม่กี่รายเท่านั้น แต่จะจัดทำเป็นชุดสำเร็จรูป เรียกกันในวงการว่า “ไครม์แวร์ คิท” ขายออนไลน์ให้กับบรรดาแก๊งอาชญากรรมซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคโนโลยีสูง สำหรับนำไปใช้งานหาเงินจากเหยื่อต่อไป

นอกเหนือจากการติดมัลแวร์และไวรัสแล้ว ลุคเอาท์ยังเตือนด้วยว่า อาจมีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่จะส่งผลให้โทรศัพท์ของเราทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการกระจายมัลแวร์หรือไวรัส โดยใช้ไวรัสที่เรียกกันว่า “น็อทคอมแพททิเบิล” เป็นตัวจัดการ ผลก็คือเราจะกลายเป็นเครื่องมือบังหน้าทำอาชญากรรมแทนอาชญากรตัวจริงไปนั่นเอง

หน้า 9,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ทีี่ 10 กันยายน 2555

PostHeaderIcon นอนไม่หลับ 33วิธีช่วยได้

 
 

 

 

นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้

1. อย่าเข้านอนเพราะว่า “ถึงเวลานอนแล้ว” แต่จงเชื่อนาฬิกาในตัวคุณเอง ถ้าดูไม่ออกว่าตอนไหน ขอให้รู้ไว้ว่าร่างกายจะสื่อให้ทราบเมื่อถึงเวลา แต่ทว่า มนุษย์เรา ไม่รู้ ความหมายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งได้แก่ การหาวนอน อาการแสบตา ความรู้สึกประเภท “ลานหมด” หัวจะทิ่มลงท่าเดียว ส่วนหนังตา ก็หย่อน พาลจะหลับให้ได้…. ถ้ายังไม่รับ ทราบสัญญาณเหล่านี้ คุณก็จะพลาดรถไฟ สายเจ้าหญิงนิทรา และจะต้องรอไปอีกสองชั่วโมง จึงจะง่วงนอนอีกครั้ง เนื่องจากต่าง คนต่างก็มีช่วงจังหวะของตัวเอง จึงเปล่าประโยชน์ที่ คุณ จะเข้านอนแต่เนิ่น ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกครอบครัว นอนดึก หรือรอจนดึกดื่น จึงเข้านอน ถ้าคุณเป็นพวกนอนหัวค่ำ

2. อย่านอนผิดเวลาทุกวัน คุณรับประทานอาหารประมาณเวลาเดิม ก็ขอให้เข้า นอน และ ตื่นนอนตามตารางเวลา เดิมเป็น ประจำด้วย มิฉะนั้นคุณก็เสี่ยง ที่จะง่วง นอนผิดเวลา

3. ทดลองหลับแว่บเดียว ทำเหมือนจิตรกรซัลวาดอร์ ดาลี ที่ดูเหมือนเป็น หนึ่งใน บรรดา ลูกสมุนของเทคนิค “แสงแว่บ” เรียกสติคืนมา นั่งบน เก้าอี้โซฟา มือถือ ช้อนชาคันหนึ่ง ตรงปลายเท้าของคุณวางจานโลหะ ไว้หนึ่งใบ เมื่อผล็อย หลับ มือก็จะปล่อยช้อนหล่นลงมาบนจานโลหะ ส่งเสียงดัง ซึ่งจะปลุกคุณให้ตื่น…. ในทางทฤษฎีถือว่า อาการของคุณปกติดี คำอธิบาย….เมื่อหลับตา คุณตัดข้อมูล ไม่ให้เข้าสู่สมองได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ควรฝึกวันละหลายครั้ง

4. พักกลางคัน ถ้าคุณไม่สนใจพักแป๊ปเดียวเพื่อให้ตนเอง กระปรี้กระเปร่า ก็ใช้วิธีนี้ นั่งท่าสบาย ๆ อยู่ที่โต๊ะ ทำงาน ของคุณ หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้ กัน หรือนอนท่าเหยียด ยาว หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย ง่าย ๆ

5. สะสมการนอน “ช่วงสั้น” ใน วันทำงาน คงยากที่ จะนั่งสัปหงกหน้าแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ตอน บ่ายอ่อน ๆ เก็บสะสมความอยากเอนหลังนาน ๆ เป็นชั่วโมง ครึ่งถึงสองชั่วโมง (ซึ่งเป็นหนึ่งวัฏจักรของการ นอนหลับพักผ่อน ที่เต็มอิ่ม) เอาไว้ชดเชยตอนบ่ายของวันสุดสัปดาห์ คุณจะได้พักผ่อนอย่าง อิ่มเอม ใช้หนี้ความเหนื่อยล้าตลอดสัปดาห์

6. บอกเลิกการตีเทนนิสหรือการออกกายบริหารที่ฟิตเนสทุกเย็นวันอังคาร นอกเสียจากว่าคุณไม่ กลัวนอนดึก การเล่นกีฬาตอนหัวค่ำยิ่งไม่เอื้อ ต่อการนอน เพราะทำให้ร่าง กายสดชื่นตื่นตัว แต่ก็อีกนั่นแหละ ต้องจับตาดูความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ทำให้คนใกล้ตัว หลับบางที คือสิ่งที่กลับปลุกให้คุณตื่น

7. ลงมือฝึกชี่กง (ลมปราณ) ชี่กงเหมาะมากสำหรับสงบความคิดจิตใจ และขจัด ความอ่อนเพลีย ในไม่ช้าคุณจะเรียนรู้ที่จะทำท่าที่ชวนให้ง่วงนอนเป็น

8. รับประทานอาหารค่ำแต่หัวค่ำ คุณจะรู้สึกว่าเวลาช่วงค่ำยาวนานขึ้น ควรหลีก เลี่ยงการเข้านอน “ขณะยังย่อยอาหารอยู่” ปล่อยให้เวลาผ่านไป อย่างน้อย สอง ชั่วโมงหลังอาหารค่ำแล้วจึงค่อยนอน

9. ค้นพบความเพลิดเพลินและประโยชน์ของการเดินย่อยอาหารมื้อค่ำ

10. ละเว้นสารกระตุ้นต่าง ๆ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำชา….ความจริง ที่มนุษย์ ส่วนใหญ่ยังคงละเลยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถจะรับและ มีปฏิกริยา โต้ตอบ พิเศษกับคาเฟอีนก็ตาม เพราะระบบเผาผลาญ บางคนต้อง ใช้เวลาสิบสอง ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อกำจัดกาแฟเพียงถ้วยเดียว ไม่น่าแปลกใจ ที่คำว่า “kawa” หรือ “กาแฟ” ในภาษาอาหรับ หมายถึง “ตัวทำลายความง่วง”

11. จงหาว ถ้าเกิดง่วงนอนและมีอาการหาวบ่อย ๆ การบังคับตนเองให้หาว จะช่วย ผ่อนคลาย ได้และทำให้อยากนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า ได้ยืดแข้งยืดขาด้วย

12. ดื่มเครื่องดื่มชาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาทอย่าง ชาคาโมมายล์ ลาเวนเดอร์….จะช่วยให้นอนหลับได้

13. ลดปริมาณอาหาร และ กลูไซด์ (อินทรียสารในคาร์โบไฮเดรต) ตอนมื้อค่ำ หลีกเลี่ยงน้ำตาล ของหวานที่หวานจัด น้ำผึ้ง น้ำอัดลม…. เพราะเสี่ยงที่จะ เสริม ให้ โลหิตมี ปริมาณกลูโคสต่ำกว่าปกติในตอนกลางคืน

14. รับประทานแอปเปิ้ล ผักกาดหอม และผลิตภัณฑ์จากนม ตามความเชี่อที่ว่า อาหารเหล่า นี้เป็นเพื่อนกับความง่วง เพราะประกอบด้วยสารหลักใน ตัวยาที่ออกฤทธิ์ วิตามินและเอ็นไซม์ที่เป็นสื่อกลางช่วยให้ง่วงเหงาหาวนอน ควรเลือกผลิตภัณฑ ์จากนมที่ย่อยได้ง่ายที่สุด อย่างโยเกิร์ต (นมเปรี้ยว) นมข้น และเนยแข็งสีขาว ดีกว่าพวกเนยแข็งที่ ไขมันสูงและผ่านการหมักเชื้อ สำหรับอาหารค่ำ ควรเลือกอาหารจำพวกปลานึ่ง ผักนึ่ง และผลไม้ที่ย่อยง่าย เลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมัน ผลิตภัณฑ์จากหมูเนื้อ เครื่องเทศและเครื่องปรุงรส

15. ก่อนเข้านอนอย่าดื่มน้ำมากเกินไป แต่ให้ดื่มมาก ๆ ในระหว่างวันตั้งแต่ เวลา 18 นาฬิกาเป็นต้นไปจงลดการบริโภคของเหลว

16. ปกป้องตนเองให้พ้นจากเสียงรบกวนหาสำลีอุดหูหรือติดกระจกซ้อนสองชั้น ปูพรมตลอดห้อง ใช้เพดาน เก็บเสียง….เสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม ทีเราใช้ ชีวิต อยู่มีส่วนในการลด ทอนคุณภาพการนอนได้

17. หัวเราะวันละหลาย ๆ ครั้ง การหัวเราะเป็นกิจกรรมตามธรรมชาติและ เกิดขึ้นเอง ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของระบบประสาท สำหรับบางคน “หัวเราะนาทีเดียวมี ค่าเท่ากับการ ผ่อนคลายร่างกายสี่สิบห้านาทีเต็ม”

18. การพักผ่อนนอนหลับเป็นเรื่องใหญ่ ที่นอนเป็นเรื่องสำคัญ จงหันไปเลือก ฟูก ขนาด 160 คูณ 200 ซ.ม. กว้างขวางกว่าฟูกมาตรฐานขนาด 140 คูณ 190 ซ.ม. หรือ ไม่ก็ไปหาฟูกแบบอเมริกัน เลือกตามชอบใจว่าจะเป็น คิงไซส์ ขนาด 190 คูณ 200 ซ.ม. หรือแคลิฟอร์เนียนคิงไซส์ ขนาด 180 คูณ 210 ซ.ม.

19. เพื่อความสมดุลสงบ เวลานอนควรตรวจสอบทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับการวาง เตียงนอน คือให้ศีรษะหันไปทางทิศเหนือ เท้าไปทางทิศใต้ตามทิศทาง ของคลื่นแม่ เหล็กโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าให้ศีรษะหันไปทางทิศ ตะวันออก

20. ถ้าคุณต้องทาสีผนังห้องนอนใหม่ ขอให้ทราบด้วยว่าสีฟ้ากลาง ๆ เป็นสีสำหรับ การนอนที่ดีที่สุด

21. กรองแสงสว่างเหมือนกับการหรี่ศูนย์ความรู้สึดตื่นของเราค่อย ๆ หรี่จาก แสง สว่างจ้าให้มืดลงเรื่อย ๆ ลดไฟฟ้าในห้องนอนของคุณ หรือปิดตาสักครู่ ก่อน ดับไฟ คุณจะ ช่วยร่างกายให้ปฏิบัติหน้าที่ ง่ายขึ้นโดยช่วงเวลา เปลี่ยนแปลงคือ สองสามนาที และปฏิบัติกลับกันในตอนเช้า

22. ไม่ควรนำต้นไม้ใบเขียวไว้ในห้องนอน อย่างน้อยเวลากลางคืน หลีกเลี่ยง ไม่ให้ มาแย่งออกซิเจน

23. ใช้วารีบำบัด สปาบางแห่งเสนอวิธีบำบัดที่ช่วย ให้คุณค้นพบกุญแจ สำหรับการ นอนหลับใน โปรแกรม ประกอบด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในสระว่ายน้ำ ที่ บรรจุน้ำทะเลอุ่น ๆ ตามด้วยเสียงดนตรีใต้น้ำ การแช่น้ำ ในอ่างจากุชซี่ที่ผสม หัวน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

24. อย่าให้ห้องนอนของคุณร้อนเกินไป จะดีที่สุดให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 ถึง 25 องศาเซลเซียส

25. ควบคุมการหายใจขณะตื่นอยู่ ร่างกายเพิ่มการหายใจในระดับทรวงอกเอง โดยสัญชาตญาณ จงหายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ โดยใช้ท้องอย่างไม่ต้องฝืน และ ต่อเนื่องกันราบ รื่น หายใจออกแล้วหยุดไว้สองวินาที ก่อนหายใจใหม่ อีกครั้ง การหยุดช่วงสั้น ๆ นี้มีบทบาททำให้ระบบประสาทสงบลง ให้ปฏิบัติ การหายใจ ในท่านอนเหยียดยาว ก่อนนอน

26. นวดตัว โดยเน้นที่เท้า กลุ่มเส้นประสาท เส้นโลหิต หรือต่อมน้ำเหลือง ด้วยน้ำมันหอม ระเหยผสมลงไปในน้ำมันฐาน หรือครีมที่เป็นกลาง ถ้าชอบจะ เพิ่ม น้ำมันหอมระเหย (ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมาร์จอแลน ดอกบาซิลิก หรือเนโรลี) โดยหยดผสมไปกับน้ำมันฐาน (น้ำมันหอม ระเหยมากที่สุด 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันฐานถ้าเป็นไปได้ ใช้ชนิด บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามธรรมชาติ) เทคนิค อื่นในการคลาย เครียดได้แก่ การใช้ฝ่ามือทั้งสองนวด โดยกางนิ้วออก นวดศีรษะเบา ๆ ไล่จากคางขึ้น ไปถึงหน้าผาก แล้วย้อนกลับ ลง มาที่ท้ายทอย คุณนวดที่หางตาได้ ด้วยเช่นกัน

27. ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ วิธีนี้ช่วยลดภาวะตึงเครียด สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ การนอนง่ายคือบังคับควบคุม ความรู้สึกของสายตาและ ไม่คิดอะไรอีกต่อไป ได้สำเร็จ ขณะ นอนหลับ สัมผัสทั้งห้าของเราถอดสายปลั๊ก ตามธรรมชาติ เริ่มต้น จากการมอง การรับกลิ่น การรับรส การสัมผัส และสุดท้ายการได้ยิน

28. อาบน้ำร้อน โดยค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นจาก 35 ถึง 39 องศาเซลเซียส การทำเช่นนี้มี ปฏิกริยากล่อมประสาทให้ง่วงนอน (สำหรับแปดในสิบหน) คุณสามารถเติมสมุนไพร สกัดลงในอ่างน้ำร้อนได้ แต่เพื่อความเพลิดเพลิน เท่านั้น เพราะมีเพียงความร้อนเท่านั้นที่ ทำปฏิกริยา คุณเพียงแต่แช่ เท้าใน น้ำร้อน ก็ได้ ซึ่งจะต่อเนื่องถึง อุณหภูมิของร่างกาย และมีผลผ่อนคลายกลุ่ม ร่างแหเส้นประสาท หรือเส้นโลหิต หรือหลอดน้ำเหลือง ให้ปฏิบัติ ก่อนเข้านอน

29. เพียงแค่วางมือทั้งสองข้างบนหน้าท้อง ความร้อนจากมือช่วยผ่อนคลาย อวัยวะภาย ในช่องท้องที่ ขวางการไหลเวียนพลังงาน

30. อย่าคาดหมายล่วงหน้า พยายามอย่านึกคิดล่วงหน้าถึง การนัดหมาย สำคัญทาง อาชีพการงานใน วันรุ่งขึ้น แนวคิดคือเข้านอนดึกด้วย ความกังวลจะทำให้ คุณหลับ ไม่ลง

31. ผ่อนคลายตัวเองด้วยการหลับตาและจินตนาการถึงการอาบน้ำ ฝักบัวเย็น ฉ่ำ ที่ราดรด ลงมาจาก ศีรษะแล้วไหลไปตามลำคอ นำพาความเครียดทั้งวัน ที่ผ่านมาให้ไหลไป ตามทางน้ำ หรือใช้วิธีหายใจลึก ๆ อย่างรู้สติเป็นชุด ๆ ผสานกับการคิดแต่ในแง่ดี (“ฉันยอมหลับอย่างวางใจ” “ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เต็มที่”)

32. สามชั่วโมงก่อนนอน บอกเลิกกิจกรรมทุกอย่างที่คร่ำเคร่งและใช้สติปัญญา หยุดอ่านหนังสือถ้ามัน จุดจินตนาการของคุณให้ทำงาน ผลักดันให้ฝันหรือ ใช้ความคิดใคร่ ครวญ

33. พยายามคอยสังเกตสิ่งที่คุณทำแล้วหลับได้สนิทดี จะได้นำมาใช้ใหม่ ในค่ำคืน ที่นอนไม่หลับสักที

ขอบคุณข้อมูลที่มา…heyhapartyblogspot

PostHeaderIcon แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด

 


“เดลี่ เมล์ รายงานเมื่อวันที่ 8 ก.ย.ว่า เกิดเหตุชวนอึ้ง หลังจากแม่น้ำแยงซี ที่ไหลผ่านเมืองฉงชิ่ง ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ได้กลายเป็นสีแดงเหลือง เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยเป็นทางน้ำที่ไหลบรรจบพบกับแม่น้ำเจียลิน ขณะที่เจ้าหน้าที่ทางการกำลังสอบสวนสาเหตุของสถานการณ์ดังกล่าว โดยผู้คนต่างบอกว่ารู้สึกตะลึงเมื่อเก็บตัวอย่างของน้ำจากแม่น้ำดังกล่าวลงในขวด ซึ่งเป็นสีแดง
รายงานระบุว่า เหตุการณ์นี้เลียนคล้ายแม่น้ำเจียน ในเมืองหลิวหยาง ในมณฑลเฮอหนาน ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งกลายเป็นสีแดง หลังจากได้รับมลพิษจากสีย้อมผ้าที่่รุนแรง โดยถูกทิ้งจากจากโรงงานย้อมผ้าผิดกฎหมาย และทำให้ทางการต้องเข้าปิดโรงงานดังกล่าวและยึดเครื่องจักร อย่างไรก็ตาม เดลี่ เมล์ ยังรายงานว่า ปรากฎการณ์นี้ดูเหมือนจะคล้ายกับเนื้อหาในพระคัมภีร์ไบเบิลบท 16 ที่ระบุถึงสัญญาณของวันสิ้นโลก ว่า เทวดาจะโยนบาปลงสู่แม่น้ำต่าง ๆ และทำให้แม่น้ำกลายเป็นสีเลือด

 


www.teenee.com

 

 

 

 

PostHeaderIcon สมาร์ทโฟน…มหันตภัยแสนใกล้ตัว

 
 

           เมื่อเร็วๆ นี้ เว็บไซต์เดลี่เมลแห่งประเทศอังกฤษ ได้หยิบเอาคลิปวิดีโอบันทึกเหตุการณ์ที่พนักงานหนุ่ม นาม “อีออน” ที่ทำงานในผับคิง วิลเลียม เดอะโฟร์ธ ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ เดินตกลงไปในปล่องช่องลิฟต์ขนสินค้า ที่มีความลึกราว 3 เมตรเศษ ทั้งที่ในเวลานั้นมีแสงสว่างส่องทั่วพื้นที่ทำงาน และสามารถมองเห็นพื้นและสิ่งรอบข้างได้โดยสะดวก

            แต่ทำไมนายอีออนถึงได้ตกลงไปในปล่องลิฟต์ได้น่ะหรือ ก็เพราะว่า ขณะที่เดินมาหยิบสินค้าตามคำสั่งเจ้านายนั้น กระทาชายรายนี้กำลังก้มหน้าก้มตาชมรายการโทรทัศน์ที่ภรรยาไปออกรายการบนจอเล็กๆ ของสมาร์ทโฟนของตนเองอยู่ ทำให้สมาธิทั้งหมดมุ่งอยู่กับหน้าจอขนาดกว้างไม่เกิน 5 นิ้ว และตัดตัวเองออกจากสภาพแวดล้อมภายนอกโดยสิ้นเชิง ทำให้เขาไม่ได้สังเกตเลยว่าแผ่นพื้นที่ปิดช่องลิฟต์อยู่นั้นถูกนำออกไปวางข้างๆ และเหลือช่องว่างขนาดพอดีตัวให้เขาก้าวเดิน (อย่างไม่ระวัง) ลงไปในปล่อง เรียกเสียงฮาจากพนักงานรอบข้างที่เห็นเหตุการณ์ความซุ่มซ่ามของหนุ่มรายนี้ได้อย่างดี

             นี่เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ ของความซุ่มซ่าม และเลินเล่อของกระทาชายนายอิออน แต่ก็เป็นเครื่องสะท้อนได้ว่า การที่เจ้าของสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์สื่อสารเคลื่อนที่ แม้กระทั่งแท็บเล็ต มัวแต่จับจ้องหน้าจอจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ปรากฏอยู่บนนั้น โดยไม่สนใจสภาพแวดล้อมภายนอก ภัยจะมาถึงตัวได้โดยคาดไม่ถึง

             เรื่องดังกล่าวไม่ใช่เรื่องเล็กๆ สำหรับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา หลังจากที่มีการเก็บสถิติอุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากผู้ขับหันไปให้ความสำคัญกับสมาร์ทโฟนชั่วขณะ ทำให้ลืมไปว่าตนเองกำลังขับรถอยู่นั้น มีอยู่ด้วยกันถึง 25% ของจำนวนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา

             อุบัติเหตุทางรถยนต์ที่เกิดขึ้นจากสมาร์ทโฟน แทบทั้งหมดมาจากการที่ผู้ขับละสมาธิจากท้องถนนไปกดปุ่มพิมพ์ข้อความหรืออ่านข้อความที่เพื่อนๆ ส่งมา

             ผลการศึกษาพบว่า การละมือมาพิมพ์ข้อความบนหน้าจอสมาร์ทโฟนนั้น เป็นอันตรายกว่าการเมาแล้วขับรถยนต์ถึง 6 เท่า ดังนั้นการใช้งานโซเชียลมีเดียระหว่างการขับรถจึงเป็นอันตรายอย่างยิ่ง แต่ก็ยังมีความเสี่ยงต่อการเกิดเหตุเลวร้ายขึ้นอีกมาก เมื่อประชากรโลกนิยมใช้โซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊ก และ ทวิตเตอร์มากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันตลาดสมาร์ทโฟนก็เติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศต่างๆ

              การศึกษาของนักวิจัยในสหรัฐน่าจะเป็นเครื่องเตือนภัยอย่างดีให้แก่รัฐบาลของประเทศกำลังพัฒนา และประเทศดาวรุ่งทางเศรษฐกิจของโลก เช่น จีน และอินเดีย ที่มีอัตราการใช้งานสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นอย่างมากในแต่ละปี ขณะเดียวกันความนิยมในการใช้สื่อโซเชียลมีเดีย (ในภาษาท้องถิ่น) ก็เพิ่มจำนวนมากยิ่งขึ้น ขณะที่อัตราการบริโภครถยนต์ก็เพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ทำให้ประชาชนมีกำลังจับจ่ายซื้อสินค้าที่ต้องการมากขึ้นตามไปด้วย

              ไม่เพียงแค่อุบัติเหตุจากการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการขับรถยนต์ แต่ในสหรัฐยังมีการเก็บสถิติผู้เสียชีวิตจากการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการเดินขึ้นลงบันได ที่แต่ละปีมีอัตราสูงถึง 12,000 รายต่อปี และมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นไปอีก

              สิ่งที่ประชากรในหลายประเทศยังขาดคือ “จิตสำนึกความปลอดภัย” เนื่องจากขาด “สติ” ที่เป็นต้นเหตุของ “ปัญญา″ ในการรับรู้และระวังป้องกันอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมใดๆ เชื่อว่าหลายต่อหลายคนไม่ทราบว่ามีผู้เสียชีวิตจากการใช้สมาร์ทโฟนระหว่างการเดินขึ้นลงบันไดกันแล้ว แต่นั่นก็เป็นเครื่องบ่งชี้ว่า “สมาร์ทโฟน” เป็นอันตรายที่ใกล้ตัวกว่าที่คุณคิด หากเจ้าของ “ไร้สติ” ในการใช้งาน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

PostHeaderIcon แผ่นดินไหว เชียงราย 3.3 ริกเตอร์

ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 19.26 น. วันที่ 8 กันยายนที่ผ่านมา ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 3.3 ริกเตอร์ ขึ้นที่ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย ทางตอนเหนือของประเทศลาว ลึกจากพื้นดิน 6 กิโลเมตร

อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นยังไม่ได้รับรายงานความเสียหาย

Mthai News

PostHeaderIcon ประชาชนแห่ชมปรากฏการณ์บลูมูน

 
 

เชียงใหม่ 1 ก.ย.- ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วประเทศ เฝ้าชมปรากฏการณ์ บลูมูน หรือดวงจันทร์เต็มดวง โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน

ประชาชนและนักท่องเที่ยว ขึ้นไปชมบลูมูน หรือพระจันทร์เต็มดวง บริเวณจุดชมวิวดอยสุเทพ

เมื่อเกิดปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์ ประชาชนและนักท่องเที่ยว สามารถมองเห็นความสวยงามได้อย่างชัดเจน โดยภาพที่เห็นเป็นพระจันทร์ทรงกลด ดวงโตเหลืองอร่าม หลายคนใช้กล้องถ่ายรูป ถ่ายภาพความประทับใจเก็บไว้เป็นที่ระลึก ปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวงที่เกิดขึ้นคืนนี้ ถือเป็นครั้งที่สองในรอบเดือนสิงหาคม ซึ่งปรากฏการณ์นี้ จะเกิดขึ้นอีกครั้งวันที่ 2 และวันที่ 31 กรกฎาคม 2558

ส่วนที่สงขลาประชาชนและนักท่องเที่ยว ไปรวมตัวกันบริเวณลานวัฒนธรรมและลานดนตรี แหลมสมิหลา

เพื่อชมปรากฏการณ์บลูมูน ซึ่งสามารถมองเห็นปรากฏการณ์พระจันทร์เต็มดวง ได้อย่างชัดเจน โดยพระจันทร์ มีสภาพกลมโตอย่างเห็นได้ชัดมากที่สุด เวลา 20.58 นาที ตามเวลาประเทศไทย.-สำนักข่าวไทย

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย:”ข่าวเข้ม ฉับไว เป็นกลาง”