PostHeaderIcon “พายุสุริยะ”ปะทุระเบิดจากดวงอาทิตย์

 
 

 

ฮือฮา “นาซา″เปิดภาพสุดหาชมยาก”พายุสุริยะ”ปะทุระเบิดจากดวงอาทิตย์ 

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อวันที่ 19 พ.ย.องค์กรนาซาได้เปิดเผยภาพปรากฎการณ์”พายุสุริยะ”เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ถ่ายบันทึกโดยศูนย์สังเกตการณ์การขับเคลื่อนด้านสุริยะของนาซา โดยพายุสุริยะดังกล่าวถือว่าเป็นพายุสุริยะระดับทรงพลัง หรือการปะทุในระดับ 6

รายงานระบุว่า ภาพดังกล่าวสามารถเห็นแรงดันของพลาสม่าความร้อนสูง

ปะทุออกจากพื้นผิวของดวงอาทิตย์ไปสู่อวกาศราวหมื่นไมล์ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์นาซาระบุว่า พายุสุริยะนี้ ซึ่งมีความเร็วเฉลี่ย 300 ไมล์ต่อวินาที จะไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อโลก แต่อาจกระทบต่อดาวเทียมของโลกของโคจรเหนืออวกาศ และว่า การปะทุของพายุสุริยะดังกล่าวได้มุ่งสู่อวกาศในเส้นทางที่ดูเหมือนจะไม่กระทบต่อโลก โดยการปะทุดังกล่าวได้ขับปล่อยรังสีพลาสม่าสีแดง ซึ่งเป็นก๊าซร้อนประกอบด้วยไฮโดรเจนและฮีเลี่ยม และรังสีพลาสม่าดังกล่าวปะทุจากการพลังขับเคลื่อนของสนามพลังแม่เหล็กไฟฟ้าภายในของดวงอาทิตย์

ทั้งนี้ รายงานระบุว่า ปัจจุบัน ดวงอาทิตย์อยู่ในช่วงการปะทุพายุสุริยะอย่างเข้มข้นที่กินระยะเวลา 11 ปี และคาดว่า จะปะทุรุนแรงที่สุดในปี 2013 อย่างไรก็ตาม การเกิดพายุสุริยะในระดับอ่อนตัวก็สามารถกระทบอย่างรุนแรงต่อดาวเทียมและระบบสื่อสารบนโลกได้

www.teenee.com

PostHeaderIcon ′ซุปเปอร์เอิร์ธ′ ดวงใหม่ มีทั้งน้ำ และกลางวัน-กลางคืน

 
 

 


ทีมค้นคว้าวิจัยทางดาราศาสตร์ที่นำโดย ดร.มิกโค ทูโอมิ จากมหาวิทยาลัยฮาร์ทฟอร์ดเชียร์ ในประเทศอังกฤษและ ดร.กิลเลม แองกลาดา-เอสคูเด จากมหาวิทยาลัยก็อททิงเกน ในประเทศเยอรมนี ประสบความสำเร็จในการใช้ข้อมูลที่ได้จากโครงการเคปเลอร์ ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (นาซา) ของสหรัฐอเมริกา 

วิเคราะห์ด้วยซอฟต์แวร์ที่จัดทำขึ้นใหม่จนสามารถค้นพบดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่รอบดาวฤกษ์ในรูปแบบที่คล้ายคลึงกับโลกของเราโคจรอยู่รอบดวงอาทิตย์หรือที่เรียกว่า ดาวเคราะห์ “ซุปเปอร์เอิร์ธ” ใหม่ขึ้นมาอีก 3 ดวง โดยที่ 1 ในจำนวนซุปเปอร์เอิร์ธ ที่ค้นพบใหม่ มีคุณลักษณะที่เอื้อต่อการมีสิ่งมีชีวิตมากที่สุด

ทีมนักดาราศาสตร์ระบุว่า ดาวเคราะห์ซุปเปอร์เอิร์ธ ดังกล่าวนี้อยู่ในกลุ่มดาวพิคเตอร์โดยโคจรอยู่โดยรอบดาวฤกษ์ดวงหนึ่งซึ่งอยู่ห่างออกไปจากโลกราว 42 ปีแสง ทั้งนี้ หากข้อมูลที่ตรวจสอบได้เป็นจริง ดาวเคราะห์ดวงนี้ก็จะเป็นดาวเคราะห์ที่มีน้ำในสภาพเป็นของเหลวอยู่บริเวณพื้นผิวของดวงดาว ที่จะกลายเป็นองค์ประกอบซึ่งเอื้อต่อการดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิต นอกจากนั้น ยังมีคุณสมบัติสำคัญที่เอื้อต่อการเจริญเติบโตและวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิตที่ดาวเคราะห์ซุปเปอร์ เอิร์ธ เกือบทั้งหมดไม่มีนั่นคือ ดาวเคราะห์ดวงนี้มีวัฏจักรเวลาที่เป็นกลางวัน-กลางคืนอยู่ด้วย

ทั้งนี้ จนถึงขณะนี้ นักดาราศาสตร์ค้นพบดาวเคราะห์ที่โคจรอยู่โดยรอบดาวฤกษ์อื่นๆ แล้วมากกว่า 840 ดวง แต่มีเพียงไม่มากนักที่ถูกจัดให้มีคุณลักษณะคล้ายคลึงกับโลก หรือ ซุปเปอร์เอิร์ธ และในจำนวนน้อยดังกล่าวนั้น มีเพียง 2 ดวง รวมทั้งดวงที่ค้นพบหลังสุดนี้เท่านั้น ที่มีกลางวันกลางคืน เนื่องจากอยู่ห่างจากดาวฤกษ์ของตัวเองในระยะห่างมากพอที่จะก่อให้เกิดกลางวันกลางคืนได้ ในขณะที่ดวงอื่นๆ โคจรอยู่ในระยะประชิดกับดาวฤกษ์มากเกินไปจนเป็นเหตุให้ต้องหันเพียงด้านเดียวเข้าหาดาวฤกษ์อยู่ตลอดเวลา

ในรายงานการค้นพบซุปเปอร์เอิร์ธดวงใหม่นี้ทีมนักดาราศาสตร์ชุดนี้ระบุเอาไว้ว่า การที่มีกลางวันกลางคืน ยิ่งทำให้โอกาสที่ดาวเคราะห์ซุปเปอร์เอิร์ธดวงนี้จะมีบรรยากาศคล้ายคลึงกับสภาพบรรยากาศบนโลกมีมากยิ่งขึ้นไปอีก

ในรายงานยังให้รายละเอียดถึงดาวฤกษ์ที่เป็นศูนย์กลางของระบบสุริยะแห่งนี้ว่าเป็นดาวฤกษ์เอชดี 40307 ซึ่งมีมวลราวๆ 77 เปอร์เซ็นต์ของมวลดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรา และเป็นดาวฤกษ์ที่มีอายุใกล้เคียงกับดวงอาทิตย์ของเรามากคือราว 4,500 ล้านปี ก่อนหน้านี้ นักดาราศาสตร์ทีมอื่นๆเคยค้นพบดาวเคราะห์ซุปเปอร์เอิร์ธ 3 ดวง โคจรอยู่โดยรอบดาวฤกษ์ดวงนี้มาก่อนแล้ว การค้นพบครั้งใหม่นี้ ทำให้ เอชดี 40307 มีดาวเคราะห์เป็นบริวารอยู่มากถึง 6 ดวง

ที่น่าสนใจก็คือ ดาวเคราะห์ทั้ง 6 ดวงของ เอชดี 40307 นั้น 5 ดวงแรกโคจรอยู่ภายในระยะห่างจากดาวฤกษ์ที่เป็นศูนย์กลางเพียง 23 ล้านไมล์ ในขณะที่ดวงที่ไกลที่สุด คือ เอชดี 40307 จี ก็โคจรอยู่ใกล้มากคือวงโคจรเฉลี่ยอยู่ห่างจาก เอชดี 40307 เพียง 33 ล้านไมล์ น้อยกว่าดาวเคราะห์อย่างดาวพุธ ซึ่งโคจรอยู่ใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุดแต่ก็ยังห่างถึง 58 ล้านไมล์

อย่างไรก็ตาม เอชดี 40307 ก็มีพลังไม่เทียบเท่ากับดวงอาทิตย์ ซึ่งส่งผลให้ซุปเปอร์เอิร์ธดวงนี้ซึ่งมีมวลมากกว่าโลกของเรา 7 เท่า ไม่มีอุณหภูมิสูงเท่ากับดาวพุธแต่กลับอยู่ในขอบเขตที่อาจเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตได้แทน

ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์มติชน

PostHeaderIcon เตือนภัยหนุ่มๆ ติด iPhone, BB ระวังจะแก่เร็ว

 
 

 

ไม่คลายกระแสความนิยมจริงๆ สำหรับ iPhone และ BB เพราะเห็นหลายๆ คนก้มหน้าก้มตาแช็ตกระจาย ไม่ว่าจะไปที่ไหน รถไฟฟ้า หรือแม้แต่ในห้าง หนุ่มๆ เราก็มีความสามารถพิเศษ ที่สามารถแช็ตไปได้ ในขณะที่กำลังเดินไปด้วย ทราบไหมว่าการใช้ BB มากเกินไปนั้นก็อาจจะก่อปัญหาที่หนุ่มๆ ไม่อยากให้เกิด อย่างเช่นริ้วรอยขึ้นมาได้

ผลสำรวจของ Vouchercodes กันว่าหนุ่มๆ อย่างเราติดโทรศัพท์กันมากน้อยแค่ไหน

- 62% ของหนุ่มๆ ชอบเอาโทรศัพท์ไปเล่นเวลาอยู่บนเตียงนอน
- 49% ชอบเล่นเกมส์ในโทรศัพท์เวลาอยู่บนเตียงกับแฟน
- 26% ของหนุ่มๆ มักหยุดมี Sex กับแฟนเมื่อได้ยินเสียงโทรศัพท์หรือเสียบเตือนข้อความใหม่
- 23% ของหนุ่มๆ ใช้ iPhone บนเตียง และ 9% ใช้ BB

นอกจากจะเสี่ยงทำความสัมพันธ์ของชีวิตคู่ล้มเหลวหากไม่แบ่งเวลาดีๆ แล้วรู้ไหมว่า SmartPhone ก็อาจจะทำให้หนุ่มๆ มีริ้วรอยอย่างไม่น่าพึงประสงค์ได้ด้วย วันนี้ผมขอนำเคล็ดลับสำหรับการป้องกันริ้วรอยที่เกิดจากการใช้ iPhone และ BB มาฝากกัน


1. แบ่งเวลาให้ถูกต้องการแบ่งเวลาสำคัญมาก
ไม่นับรวมการรับโทรศัพท์นะ หนุ่มๆ สามารถให้ดวงตาของเราได้พักผ่อนได้ จัดเวลาในการดู iPhone หรือ BB ให้เหมาะสม จะทำให้เราพักกล้ามเนื้อตาที่จะเพ่งไปยังหน้าจอเล็กๆ ได้ ทำให้กล้ามเนื้อรอบดวงตา ทำงานได้อย่างดีที่สุดในระหว่างวัน

2. หรี่ไฟหน้าจอสักนิด
แสงที่สว่างจ้าจนเกินไปนั้นทำให้ม่านตาของเราต้องหรี่แคบลง เป็นผลทำให้เกิดตีนกาอันไม่พึงประสงค์ได้ ดังนั้นการใช้ไฟแบ็กไลท์ของหน้าจอที่เหมาะสม จะช่วยทำให้เราไม่ต้องเพ่งมาก และที่สำคัญ ช่วยประหยัดแบตเตอรี่ของโทรศัพท์ได้อีกด้วยนะ

3.ขยายขนาดตัวอักษร
ไม่เป็นเรื่องดีเลยที่เราจะเพ่งตัวหนังสือตัวเล็กๆ บนโทรศัพท์สมาร์ทโฟน ดังนั้นควรตั้งค่าให้ตัวหนังสือมีขนาดใหญ่ขึ้นมาอีกนิด เพื่อให้เราสามารถอ่านได้ง่ายยิ่งขึ้น และหลีกเลี่ยงการเพ่งจนเกินความจำเป็น

4. ใช้เวลาดูโทรศัพท์ให้น้อยลง
ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ BB ก็ทำให้เราต้องครุ่นคิดกับเรื่องราวต่างๆ ตลอดเวลา และทำให้เรากังวลกับเรื่องหลายๆ เรื่องจนเกินเหตุ อันส่งผลทำให้เราเครียดซึมลึก การวางโทรศัพท์แล้วออกไปทำกิจกรรมต่างๆ บ้าง จะทำให้เราได้ผ่อนคลาย และเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น คุณจะรู้สึกสงบเงียบ และไม่ต้องกังวลกับอีเมล หรือข้อความน่ากลัวใดๆ

5. อย่าลืมรอยยิ้มหากคุณประสบกับเรื่องราวเครียดๆ
ไม่ว่าจากอีเมล หรือข้อควม ไม่เว้นแต่โทรศัพท์ทางลบ ถึงแม้จะน้อยนิด ก็ทำให้เรากังวลได้ ดังนั้นลองหาเวลาว่าง เล่น App สนุกๆ อย่างเช่น Tomcat หรือ Angry Bird จะช่วยผ่อนคลาย และช่วยให้ผิวหน้าได้พักผ่อน ป้องกันรอยย่นได้ในระยะยาว

- เครดิต: menintrend

PostHeaderIcon เป็นตะคริวบ่อย สาเหตุเกิดจากอะไร

 
 

 


เป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในนักกีฬาและบ่อยครั้งที่เกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว ทำให้เกิดอาการปวดเกร็งและขยับไม่ได้

     ตะคริวที่อาจเกิดแบ่งได้ 2 ชนิด
      1. แบบ tonic เป็นชนิดที่พบได้บ่อย กล้ามเนื้อจะมีการเกร็งอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาหนึ่ง
      2. แบบ clonic กล้ามเนื้อจะมีการหดตัวสลับกับการคลายตัวเป็นช่วงสั้น ๆ สลับกันไปอย่างรวดเร็ว

สาเหตุหรือปัจจัยส่งเสริมให้เกิดตะคริวขึ้น ได้แก่

      1. การขาดเกลือแร่และอิเลคโตรไลด์ (Electrolyte) ซึ่งเป็นจากการสูญเสียทางเหงื่อ ระหว่างการเล่นกีฬา
      2. การเปลี่ยนแปลงของอุณภูมิร่างกายทันที จากร้อนเป็นเย็น หรือในทางที่กลับกัน
      3. การที่กล้ามเนื้อขาดเลือดหล่อเลี้ยง ซึ่งอาจเกิดจากการใส่เสื้อผ้าหรืออุปกรณ์ไม่เหมาะสม เช่น กางเกงกีฬาที่มีขอบขากางเกงรัดมาก ทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงขาและเท้าลดลง กล้ามเนื้อขาดออกซิเจน และมีการคั่งของของเสีย และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในกล้ามเนื้อจึงเกิดตะคริวขึ้น นอกจากนั้นกล้ามเนื้อที่ถูกใช้งานจะล้า (Over fatigue) ก็มีโอกาสเกิดตะคริวได้ง่าย

     การป้องกันตะคริวแบบง่าย ๆ

      – ก่อนออกกำลังกายควรมีการยืดกล้ามเนื้อก่อนทุกครั้ง อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ สังเกตง่าย ๆ คือ ดูสีน้ำปัสสาวะถ้ายังเข้มเหลือง โอกาสที่คุณลงเล่นกีฬาอะไรก็ตามจะเป็นตะคริวมีสูง
      – อย่าใช้อะไรรัดให้แน่นมากไป เช่น ใส่กางเกงขารัดมากไปเลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ
      – สูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย

     การปฐมพยาบาลเบื้องต้นเมื่อเกิดตะคริว

เมื่อตะคริวเกิดที่ตำแหน่งใดให้ใช้ของเย็นประคบ อย่าใช้ของอุ่นหรือร้อน เพราะจะทำให้กล้ามเนื้อบีบเกร็งมากขึ้น ให้ยืดกล้ามเนื้อมัดนั้นออกอย่างช้า ๆ ในทางตรงข้ามกับที่มัดหดตัวเห็นได้ง่าย ๆ เช่น ตะคริวที่น่อง ให้เหยียดขาออก ผู้ช่วยค่อย ๆ ยืดกล้ามเนื้อน่องด้วยการค่อย ๆ กระดกเหยียดข้อเท้า (Passive extension)

 


ขอบคุณ :  fascino

PostHeaderIcon สับปะรด ลดความดันได้

 
 

 


ผลไม้อมหวานอมเปรี้ยว มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย หากกินสับปะรดหลังอาหาร เราจะรู้สึกเบาสบายท้องและไม่อึดอัด

เพราะสับปะรดมีความสามารถในการช่วยย่อย โดยเฉพาะในสารอาหารโปรตีน เราจึงเห็นคนส่วนใหญ่ใช้สับปะรดในการหมักเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ให้นุ่มขึ้น

สับปะรดจะอุดมไปด้วยวิตามินซีสูง จึงช่วยเสริมสุขภาพและภูมิต้านทานโรคได้ดีขึ้น กินสับปะรดบ่อย ๆ จะมีห้สุขภาพดี ไม่ค่อยเป็นหวัด

ในสับปะรดยังมีโพแทสเซียมสูงที่ช่วยป้องกันการเป็นตะคริว และลดความดันได้ นอกจากนี้สับปะรดยังมีฤทธิ์ต้านการอักเสบได้เป็นอย่างดี

ปริมาณที่พอดีและเหมาะสมในการบริโภคก็คือ 100 กรัมต่อวัน ควรกินสับปะรดสด ๆ โดยไม่ผ่านการประกอบอาหารที่ใช้ความร้อน เพื่อป้องกันการสูญเสียวิตามินต่าง ๆ ไป

เห็นประโยชน์ดี ๆ ของสับปะรดแล้ว รีบหามาทานกันด่วนเลยนะคะ

 


ขอบคุณ : สาระดี @ plus.google

PostHeaderIcon สัญญาณบ่งบอกว่าต้องรักษารากฟัน

 


อาการต่างๆ ที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเราควรไปรักษารากฟันได้แล้ว หรือแบบไหนที่ต้องรักษารากฟัน เพื่อรักษาฟันของเราให้คงอยู่กับเราไปนานๆถ้ากล่าวถึงการรักษารากฟัน แน่นอนว่าโดยปกติทั่วไปแล้ว เราก็คงจะไม่ค่อยนึกถึงกัน และคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว ทั้งนี้จริงๆแล้วมันไม่ใช่เรื่องไกลตัวเราเลย เพียงแต่สาเหตุที่ส่วนใหญ่คิดไปว่าเป็นเรื่องไกลตัว นั่นก็เพราะว่าไม่ทราบว่าจริงๆแล้ว เมื่อมีอาการแบบไหนถึงต้องไปรักษารากฟันได้แล้ว

 อาการปวดฟัน ซึ่งบางคนที่มีอาการปวดฟัน แบบที่ไม่ได้ปวดอะไรมาก นานๆปวดที หรือพอปวดแล้วก็ไปซื้อแผ่นแปะแก้ปวด ตามร้านขายยามาแปะ พอหายปวด แล้วก็อาจจะไม่ได้สนใจ หรือใส่ใจอะไรกับอาการปวดฟัน ซึ่งเป็นความคิดที่ผิด เพราะอาการเหล่านี้อาจจะมาจากสาเหตุที่ว่า รากฟันเริ่มมีปัญหาแล้วก็ได้
หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบไปพบทันตแพทย์จะดีกว่า หากยังรักษารากฟันได้ ก็ควรรีบรักษา ก่อนที่จะเสียฟันไป…..

ที่มา…จัดฟันทำฟัน.net

 เสียวฟันมากๆ เวลาที่รับประทานของร้อนๆ หรือของเย็น อย่างเช่น ไอศกรีม ก็คือจริงๆแล้วอาการเสียวฟันนั้นเป็นได้กับทุกคน แต่ถ้าเป็นเสียวฟันแบบปกติ ก็คือจะไม่เสียวมาก จะรู้สึกนิดๆ ก็คือไม่เป็นอุปสรรคต่อการทานของร้อนและของเย็น แต่ถ้าหากว่าเราเสียวถึงขั้นที่ว่าเวลาทาน ของร้อนและของเย็นแล้ว รู้สึกว่าทานค่อนข้างลำบาก แน่นอนเลยว่า รากฟันเริ่มไม่แข็งแรงแล้ว

 รู้สึกปวดฟันเวลาที่เคี้ยวอาหารหรือเวลาที่กัดฟัน ทั้งนี้หลายคนอาจจะไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าเป็นเพียงเฉพาะเวลานั้นเท่านั้น ไม่ได้ปวดเวลาปกติ คงไม่เป็นอะไร

PostHeaderIcon เตรียมรับมือน้ำท่วม

นายธนวัฒน์ จารุพงษ์สกุล หน่วยศึกษาพิบัติภัยและข้อสนเทศเชิงพื้นที่ ภาควิชาธรณีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยถึงสถานการณ์วิกฤติน้ำในประเทศไทยปี 2555 ว่า ปีนี้พื้นที่กรุงเทพมหานครยังน่าเป็นห่วง เนื่องจากมีร่องมรสุมและพายุพาดผ่านประเทศไทย นานผิดปกติโดยยังไม่สามารถหาสาเหตุได้ ซึ่งตามปกติแล้วร่องมรสุมจะอยู่ประมาณ 4-7 วัน แต่ปีนี้อยู่มาเกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งร่องมรสุมที่พาดผ่านนานก็จะทำให้ฝนตกหนัก จึงถือว่ากรุงเทพมหานคร มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมที่มาจากน้ำฝน

สำหรับปีนี้คาดว่าจะมีพายุเข้ามาในช่วงเดือนตุลาคม เหมือนปี 2533 ,2539 และ 2549 ที่ทำให้น้ำท่วมภาคกลางซึ่งมีโอกาสสูงมาก และประมาณวันที่ 29 กันยายน ถึง 2 ตุลาคมนี้ คาดว่า จะมีฝนตกหนักซึ่งต้องจับตามองว่ากรุงเทพมหานคร จะรับมืออย่างไร ขณะที่ปัจจุบันกรุงเทพมหานคร กับรัฐบาลยังไม่บูรณาการแผนงานร่วมกัน

ส่วนข้อแนะนำนั้นขณะนี้มีวิธีเดียวคือพร่องน้ำในคลอง เพราะการขุดลอกคูคลองอาจไม่ทันการ พร้อมทั้งต้องหารือกับรัฐบาลว่า จะต้องไม่ปล่อยน้ำเหนือผ่านเข้ามา นอกจากนั้น การที่รัฐบาลทุ่มงบประมาณสร้างพนังกั้นน้ำให้สูงขึ้น อาจจะยิ่งทำให้กรุงเทพมหานครมีความเสี่ยงมากขึ้น หากฝนตกหนักเป็นเวลานาน และเขื่อนก็เริ่มปล่อยน้ำลงมา ซึ่งอาจเกิดปัญหาเหมือนกับเมืองนิวออร์ลีนส์ ในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเมื่อเกิดพายุกำแพงก็จะกลายเป็นอ่างเก็บน้ำ

สำหรับน้ำท่วมภาคกลางนั้นมีหลายปัจจัยไม่ใช่เฉพาะน้ำเหนือเท่านั้น ซึ่งปีนี้น่าห่วงเรื่องร่องมรสุมที่อยู่นานผิดปกติ อีกทั้งน้ำเหนือก็คาดว่าจะมาถึงกรุงเทพมหานคร ประมาณเดือนตลุาคมนี้เช่นกัน และช่วงนั้นก็อาจจะมีน้ำทะเลหนุนด้วยซึ่งถ้า 3 น้ำมาเจอกันกรุงเทพฯ ก็อาจต้องเจอปัญหาใหญ่

ส่วนในระยะยาวกรุงเทพมหานครจะต้องปรับท่อระบายน้ำให้ใหญ่ขึ้นจากที่ระบายได้ 60 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงเป็น 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงและขุดลอกคูคลองให้ลึกขึ้น ขณะที่แนวคิดที่จะก่อสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นนั้นคิดว่าเขื่อนไม่ใช่มาตรการเบ็ดเสร็จที่ให้แก้ปัญหาทั้งหมด แต่จะต้องมีการบริหารจัดการน้ำที่ดีหากบริหารจัดการไม่ดีเขื่อนอาจจะกลายเป็นปัญหา รัฐบาลต้องให้คำตอบเรื่องความคุ้มค่าให้ได้

Mthai News

เกาะติด ข่าวน้ำท่วม 2555

PostHeaderIcon จีนเซอร์ไพรส์! ผลิต “เครื่องรีดน้ำเชื้อคน”

ประเทศจีนมักจะมีอะไรมาเซอร์ไพรส์เราอยู่เสมอไม่ขาดสาย ล่าสุดโรงพยาบาลในเมืองหนานจิง จังหวัดเจียงซู ได้เปิดตัว “เครื่องรีดสเปิร์มคน” ที่มีหน้าตาเหมือนเครื่องคูลเลอร์กดน้ำเย็น แต่มันแตกต่างตรงที่บริเวณกลางเครื่อง จะมีท่อสำหรับ ใส่ “ท่อผลิตสเปิร์ม” ที่จะขยับเข้าๆออกๆ จำลองกิจกรรมเข้าจังหวะ ให้หนุ่มๆตี๋ทั้งหลายที่ต้องการบริจาคสเปิร์มได้ขับน้ำอสุจิออกมาโดยไม่ต้องเมื่อยมือ

โดยลูกเล่นของเครื่องดังกล่าวทำให้เราต้องร้องว้าวววว!! เพราะมันสามารถปรับระดับ “ท่อ” ให้เหมาะกับความสูงของหนุ่มๆ และที่สำคัญ สามารถปรับ ความเร็ว ความถี่ ขนาดของท่อให้พอดีกับเจ้าหนูของหนุ่ม รวมไปถึงความอุ่นของท่อนั้นได้ตามต้องการ เรียกได้ว่าแค่หนุ่มๆยืนเฉยๆดูหนัง “กระตุ้นอารมณ์”
บนหน้าจอบนตัวเครื่องนั้น ก็จะเสร็จสมอารมณ์หมายได้โดยไม่ต้องออกแรง
เครื่องดังกล่าวผลิตมาก็เพื่อแก้ไขปัญหาที่หนุ่มๆหลายคนเขินอายที่จะบริจาคอสุจิด้วย “วิธีเดิมๆ” สนนราคาก็ประมาณ 84000 บาท

http://men.mthai.com/men-around/6932.html

PostHeaderIcon เจ้าของสมาร์ทโฟนระวัง ถูก”ดูดเงิน”ไม่รู้ตัว

 
 


“ลุคเอาท์” บริษัทด้านความปลอดภัยในระบบโทรศัพท์มือถือ ออกมาเตือนบรรดาเจ้าของโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนทั่วไปว่า ระวังจะตกเป็นเหยื่อของคนร้ายที่พุ่งเป้าปล่อยมัลแวร์ ที่จะทำหน้าที่ดูดเงินจากเหยื่อโดยเฉพาะเพิ่มมากขึ้นอย่างน่าตกใจ โดยในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ไวรัสมือถือในรูปแบบต่างๆ ที่ทำหน้าที่เดียวกันนั่นคือ ลอบดูดเงินจากผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือ ได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างพรวดพราด จากเดิมที่มีสัดส่วนเพียง 29 เปอร์เซ็นต์ของมัลแวร์ทั้งหมด กลายเป็น 62 เปอร์เซ็นต์แล้วในเวลานี้

เควิน มาฮาฟฟีย์ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยของ “ลุคเอาท์” เชื่อว่า สาเหตุของการเพิ่มอย่างพรวดพราดดังกล่าวนั้น เป็นเพราะอาชญากรที่อยู่เบื้องหลังไวรัสหรือมัลแวร์ต่างๆ ดังกล่าวเริ่มมั่นใจแล้วว่า ไวรัสและมัลแวร์ต่างๆ เหล่านั้นใช้งานได้ผล หลังผ่านช่วงของการทดลองใช้มาระยะหนึ่งก่อนหน้านี้ มาฮาฟฟีย์ชี้ว่า ในช่วง 2-3 เดือนหลังมานี้บรรดาแก๊งอาชญากรไฮเทคเหล่านี้เริ่มยุติการทดลองกรรมวิธีต่างๆ ที่หลากหลาย แล้วหันมาใช้กรรมวิธีที่ได้ผลกันแบบเป็นอุตสาหกรรม ปูพรมเพื่อล่าเหยื่อกันขนานใหญ่ เพื่อให้ได้เงินมากที่สุดเท่าที่จะมากได้

วิธีการดูดเงินจากโทรศัพท์มือถือโดยไม่ให้เหยื่อรู้ตัวนั้น มีตั้งแต่การเขียนแอพพลิเคชั่นที่ไม่ใช่แอพพลิเคชั่นเพื่อใช้งานจริง แต่จะกลายเป็นเหมือนระเบิดเวลาในทันทีที่ติดตั้งลงในโทรศัพท์ หลังจากนั้น ก็จะทำอย่างหนึ่งอย่างใด เพื่อให้เจ้าของแอพพ์ดังกล่าวสามารถเรียกเก็บเงินจากผู้ให้บริการ (โอเปอเรเตอร์) ที่จะมาเรียกเก็บเงินจากผู้ใช้บริการคือเหยื่ออีกต่อหนึ่ง โดยค่าใช้จ่ายดังกล่าวจะปรากฏอยู่ในใบเสร็จรับเงิน ซ้ำๆ เป็นระยะๆ

อีกวิธีการหนึ่งเป็นการบังคับให้โทรศัพท์ที่ตกเป็นเหยื่อ ลิงก์เข้าหาเว็บไซต์บางเว็บไซต์โดยอัตโนมัติ เพื่อเรียกเก็บเงินเป็นค่าการโฆษณาจากเว็บไซต์ดังกล่าว ในขณะที่ผู้เป็นเจ้าของโทรศัพท์มือถือต้องเสียเงินค่าเชื่อมต่อที่ไม่จำเป็นดังกล่าวนั้นไปฟรีๆ เช่นเดียวกันกับแอพพลิเคชั่นหรือไวรัสที่เขียนขึ้นเพื่อบังคับให้โทรศัพท์ของเราเปิดโฆษณาบางอย่างซ้ำๆ เพื่อหาเงินจากการโฆษณา แต่กลายเป็นการใช้งานที่สิ้นเปลืองโดยไม่จำเป็นของเจ้าของโทรศัพท์มือถือ

มาฮาฟฟีย์ระบุว่า เพราะการระดมปูพรมในบางพื้นที่เป็นพิเศษ ทำให้ในช่วงที่มีการเริ่มต้นใช้มัลแวร์ดูดเงินกันขนานใหญ่นั้น มีการระบาดของไวรัสและมัลแวร์เหล่านี้เป็นพิเศษในบางพื้นที่ อย่างเช่นในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ลุคเอาท์ตรวจสอบพบว่า โทรศัพท์สมาร์ทโฟนในรัสเซียมากถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ ติดไวรัสและมัลแวร์เหล่านี้ เช่นเดียวกันกับอินเดีย และจีน ซึ่งมีสัดส่วนการติดไวรัสและมัลแวร์สูงมากเช่นเดียวกัน

นักวิเคราะห์ของลุคเอาท์ เชื่อว่า มีผู้เขียนมัลแวร์ และไวรัสเหล่านี้เพียงไม่กี่รายเท่านั้น แต่จะจัดทำเป็นชุดสำเร็จรูป เรียกกันในวงการว่า “ไครม์แวร์ คิท” ขายออนไลน์ให้กับบรรดาแก๊งอาชญากรรมซึ่งไม่จำเป็นต้องมีความรู้ทางเทคโนโลยีสูง สำหรับนำไปใช้งานหาเงินจากเหยื่อต่อไป

นอกเหนือจากการติดมัลแวร์และไวรัสแล้ว ลุคเอาท์ยังเตือนด้วยว่า อาจมีแอพพลิเคชั่นบางตัวที่จะส่งผลให้โทรศัพท์ของเราทำหน้าที่เป็นตัวแทนในการกระจายมัลแวร์หรือไวรัส โดยใช้ไวรัสที่เรียกกันว่า “น็อทคอมแพททิเบิล” เป็นตัวจัดการ ผลก็คือเราจะกลายเป็นเครื่องมือบังหน้าทำอาชญากรรมแทนอาชญากรตัวจริงไปนั่นเอง

หน้า 9,มติชนรายวัน ฉบับวันจันทร์ทีี่ 10 กันยายน 2555

PostHeaderIcon นอนไม่หลับ 33วิธีช่วยได้

 
 

 

 

นอนไม่หลับ 33 วิธีนี้ช่วยได้

1. อย่าเข้านอนเพราะว่า “ถึงเวลานอนแล้ว” แต่จงเชื่อนาฬิกาในตัวคุณเอง ถ้าดูไม่ออกว่าตอนไหน ขอให้รู้ไว้ว่าร่างกายจะสื่อให้ทราบเมื่อถึงเวลา แต่ทว่า มนุษย์เรา ไม่รู้ ความหมายอยู่บ่อย ๆ ซึ่งได้แก่ การหาวนอน อาการแสบตา ความรู้สึกประเภท “ลานหมด” หัวจะทิ่มลงท่าเดียว ส่วนหนังตา ก็หย่อน พาลจะหลับให้ได้…. ถ้ายังไม่รับ ทราบสัญญาณเหล่านี้ คุณก็จะพลาดรถไฟ สายเจ้าหญิงนิทรา และจะต้องรอไปอีกสองชั่วโมง จึงจะง่วงนอนอีกครั้ง เนื่องจากต่าง คนต่างก็มีช่วงจังหวะของตัวเอง จึงเปล่าประโยชน์ที่ คุณ จะเข้านอนแต่เนิ่น ๆ ถ้าคุณเป็นสมาชิกครอบครัว นอนดึก หรือรอจนดึกดื่น จึงเข้านอน ถ้าคุณเป็นพวกนอนหัวค่ำ

2. อย่านอนผิดเวลาทุกวัน คุณรับประทานอาหารประมาณเวลาเดิม ก็ขอให้เข้า นอน และ ตื่นนอนตามตารางเวลา เดิมเป็น ประจำด้วย มิฉะนั้นคุณก็เสี่ยง ที่จะง่วง นอนผิดเวลา

3. ทดลองหลับแว่บเดียว ทำเหมือนจิตรกรซัลวาดอร์ ดาลี ที่ดูเหมือนเป็น หนึ่งใน บรรดา ลูกสมุนของเทคนิค “แสงแว่บ” เรียกสติคืนมา นั่งบน เก้าอี้โซฟา มือถือ ช้อนชาคันหนึ่ง ตรงปลายเท้าของคุณวางจานโลหะ ไว้หนึ่งใบ เมื่อผล็อย หลับ มือก็จะปล่อยช้อนหล่นลงมาบนจานโลหะ ส่งเสียงดัง ซึ่งจะปลุกคุณให้ตื่น…. ในทางทฤษฎีถือว่า อาการของคุณปกติดี คำอธิบาย….เมื่อหลับตา คุณตัดข้อมูล ไม่ให้เข้าสู่สมองได้ถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ควรฝึกวันละหลายครั้ง

4. พักกลางคัน ถ้าคุณไม่สนใจพักแป๊ปเดียวเพื่อให้ตนเอง กระปรี้กระเปร่า ก็ใช้วิธีนี้ นั่งท่าสบาย ๆ อยู่ที่โต๊ะ ทำงาน ของคุณ หนุนศีรษะบนแขนที่ไขว้ กัน หรือนอนท่าเหยียด ยาว หลับตาและปล่อยตัวตามสบาย 5 นาที เพื่อผ่อนคลาย ง่าย ๆ

5. สะสมการนอน “ช่วงสั้น” ใน วันทำงาน คงยากที่ จะนั่งสัปหงกหน้าแป้นพิมพ์ คอมพิวเตอร์ตอน บ่ายอ่อน ๆ เก็บสะสมความอยากเอนหลังนาน ๆ เป็นชั่วโมง ครึ่งถึงสองชั่วโมง (ซึ่งเป็นหนึ่งวัฏจักรของการ นอนหลับพักผ่อน ที่เต็มอิ่ม) เอาไว้ชดเชยตอนบ่ายของวันสุดสัปดาห์ คุณจะได้พักผ่อนอย่าง อิ่มเอม ใช้หนี้ความเหนื่อยล้าตลอดสัปดาห์

6. บอกเลิกการตีเทนนิสหรือการออกกายบริหารที่ฟิตเนสทุกเย็นวันอังคาร นอกเสียจากว่าคุณไม่ กลัวนอนดึก การเล่นกีฬาตอนหัวค่ำยิ่งไม่เอื้อ ต่อการนอน เพราะทำให้ร่าง กายสดชื่นตื่นตัว แต่ก็อีกนั่นแหละ ต้องจับตาดูความรู้สึกส่วนตัวของแต่ละคน เพราะสิ่งที่ทำให้คนใกล้ตัว หลับบางที คือสิ่งที่กลับปลุกให้คุณตื่น

7. ลงมือฝึกชี่กง (ลมปราณ) ชี่กงเหมาะมากสำหรับสงบความคิดจิตใจ และขจัด ความอ่อนเพลีย ในไม่ช้าคุณจะเรียนรู้ที่จะทำท่าที่ชวนให้ง่วงนอนเป็น

8. รับประทานอาหารค่ำแต่หัวค่ำ คุณจะรู้สึกว่าเวลาช่วงค่ำยาวนานขึ้น ควรหลีก เลี่ยงการเข้านอน “ขณะยังย่อยอาหารอยู่” ปล่อยให้เวลาผ่านไป อย่างน้อย สอง ชั่วโมงหลังอาหารค่ำแล้วจึงค่อยนอน

9. ค้นพบความเพลิดเพลินและประโยชน์ของการเดินย่อยอาหารมื้อค่ำ

10. ละเว้นสารกระตุ้นต่าง ๆ เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ กาแฟ น้ำชา….ความจริง ที่มนุษย์ ส่วนใหญ่ยังคงละเลยอยู่ ถึงแม้ว่าจะมีความสามารถจะรับและ มีปฏิกริยา โต้ตอบ พิเศษกับคาเฟอีนก็ตาม เพราะระบบเผาผลาญ บางคนต้อง ใช้เวลาสิบสอง ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมงเพื่อกำจัดกาแฟเพียงถ้วยเดียว ไม่น่าแปลกใจ ที่คำว่า “kawa” หรือ “กาแฟ” ในภาษาอาหรับ หมายถึง “ตัวทำลายความง่วง”

11. จงหาว ถ้าเกิดง่วงนอนและมีอาการหาวบ่อย ๆ การบังคับตนเองให้หาว จะช่วย ผ่อนคลาย ได้และทำให้อยากนอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า ได้ยืดแข้งยืดขาด้วย

12. ดื่มเครื่องดื่มชาสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการกล่อมประสาทอย่าง ชาคาโมมายล์ ลาเวนเดอร์….จะช่วยให้นอนหลับได้

13. ลดปริมาณอาหาร และ กลูไซด์ (อินทรียสารในคาร์โบไฮเดรต) ตอนมื้อค่ำ หลีกเลี่ยงน้ำตาล ของหวานที่หวานจัด น้ำผึ้ง น้ำอัดลม…. เพราะเสี่ยงที่จะ เสริม ให้ โลหิตมี ปริมาณกลูโคสต่ำกว่าปกติในตอนกลางคืน

14. รับประทานแอปเปิ้ล ผักกาดหอม และผลิตภัณฑ์จากนม ตามความเชี่อที่ว่า อาหารเหล่า นี้เป็นเพื่อนกับความง่วง เพราะประกอบด้วยสารหลักใน ตัวยาที่ออกฤทธิ์ วิตามินและเอ็นไซม์ที่เป็นสื่อกลางช่วยให้ง่วงเหงาหาวนอน ควรเลือกผลิตภัณฑ ์จากนมที่ย่อยได้ง่ายที่สุด อย่างโยเกิร์ต (นมเปรี้ยว) นมข้น และเนยแข็งสีขาว ดีกว่าพวกเนยแข็งที่ ไขมันสูงและผ่านการหมักเชื้อ สำหรับอาหารค่ำ ควรเลือกอาหารจำพวกปลานึ่ง ผักนึ่ง และผลไม้ที่ย่อยง่าย เลีกเลี่ยงอาหาร ที่มีไขมัน ผลิตภัณฑ์จากหมูเนื้อ เครื่องเทศและเครื่องปรุงรส

15. ก่อนเข้านอนอย่าดื่มน้ำมากเกินไป แต่ให้ดื่มมาก ๆ ในระหว่างวันตั้งแต่ เวลา 18 นาฬิกาเป็นต้นไปจงลดการบริโภคของเหลว

16. ปกป้องตนเองให้พ้นจากเสียงรบกวนหาสำลีอุดหูหรือติดกระจกซ้อนสองชั้น ปูพรมตลอดห้อง ใช้เพดาน เก็บเสียง….เสียงรบกวนจากสภาพแวดล้อม ทีเราใช้ ชีวิต อยู่มีส่วนในการลด ทอนคุณภาพการนอนได้

17. หัวเราะวันละหลาย ๆ ครั้ง การหัวเราะเป็นกิจกรรมตามธรรมชาติและ เกิดขึ้นเอง ซึ่งเป็นการรักษาสมดุลของระบบประสาท สำหรับบางคน “หัวเราะนาทีเดียวมี ค่าเท่ากับการ ผ่อนคลายร่างกายสี่สิบห้านาทีเต็ม”

18. การพักผ่อนนอนหลับเป็นเรื่องใหญ่ ที่นอนเป็นเรื่องสำคัญ จงหันไปเลือก ฟูก ขนาด 160 คูณ 200 ซ.ม. กว้างขวางกว่าฟูกมาตรฐานขนาด 140 คูณ 190 ซ.ม. หรือ ไม่ก็ไปหาฟูกแบบอเมริกัน เลือกตามชอบใจว่าจะเป็น คิงไซส์ ขนาด 190 คูณ 200 ซ.ม. หรือแคลิฟอร์เนียนคิงไซส์ ขนาด 180 คูณ 210 ซ.ม.

19. เพื่อความสมดุลสงบ เวลานอนควรตรวจสอบทิศทางที่ถูกต้อง สำหรับการวาง เตียงนอน คือให้ศีรษะหันไปทางทิศเหนือ เท้าไปทางทิศใต้ตามทิศทาง ของคลื่นแม่ เหล็กโลก และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง อย่าให้ศีรษะหันไปทางทิศ ตะวันออก

20. ถ้าคุณต้องทาสีผนังห้องนอนใหม่ ขอให้ทราบด้วยว่าสีฟ้ากลาง ๆ เป็นสีสำหรับ การนอนที่ดีที่สุด

21. กรองแสงสว่างเหมือนกับการหรี่ศูนย์ความรู้สึดตื่นของเราค่อย ๆ หรี่จาก แสง สว่างจ้าให้มืดลงเรื่อย ๆ ลดไฟฟ้าในห้องนอนของคุณ หรือปิดตาสักครู่ ก่อน ดับไฟ คุณจะ ช่วยร่างกายให้ปฏิบัติหน้าที่ ง่ายขึ้นโดยช่วงเวลา เปลี่ยนแปลงคือ สองสามนาที และปฏิบัติกลับกันในตอนเช้า

22. ไม่ควรนำต้นไม้ใบเขียวไว้ในห้องนอน อย่างน้อยเวลากลางคืน หลีกเลี่ยง ไม่ให้ มาแย่งออกซิเจน

23. ใช้วารีบำบัด สปาบางแห่งเสนอวิธีบำบัดที่ช่วย ให้คุณค้นพบกุญแจ สำหรับการ นอนหลับใน โปรแกรม ประกอบด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ในสระว่ายน้ำ ที่ บรรจุน้ำทะเลอุ่น ๆ ตามด้วยเสียงดนตรีใต้น้ำ การแช่น้ำ ในอ่างจากุชซี่ที่ผสม หัวน้ำมันดอกลาเวนเดอร์ จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย

24. อย่าให้ห้องนอนของคุณร้อนเกินไป จะดีที่สุดให้อุณหภูมิอยู่ระหว่าง 20 ถึง 25 องศาเซลเซียส

25. ควบคุมการหายใจขณะตื่นอยู่ ร่างกายเพิ่มการหายใจในระดับทรวงอกเอง โดยสัญชาตญาณ จงหายใจเข้าช้า ๆ และลึก ๆ โดยใช้ท้องอย่างไม่ต้องฝืน และ ต่อเนื่องกันราบ รื่น หายใจออกแล้วหยุดไว้สองวินาที ก่อนหายใจใหม่ อีกครั้ง การหยุดช่วงสั้น ๆ นี้มีบทบาททำให้ระบบประสาทสงบลง ให้ปฏิบัติ การหายใจ ในท่านอนเหยียดยาว ก่อนนอน

26. นวดตัว โดยเน้นที่เท้า กลุ่มเส้นประสาท เส้นโลหิต หรือต่อมน้ำเหลือง ด้วยน้ำมันหอม ระเหยผสมลงไปในน้ำมันฐาน หรือครีมที่เป็นกลาง ถ้าชอบจะ เพิ่ม น้ำมันหอมระเหย (ดอกลาเวนเดอร์ ดอกมาร์จอแลน ดอกบาซิลิก หรือเนโรลี) โดยหยดผสมไปกับน้ำมันฐาน (น้ำมันหอม ระเหยมากที่สุด 5 เปอร์เซ็นต์ น้ำมันฐานถ้าเป็นไปได้ ใช้ชนิด บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ ตามธรรมชาติ) เทคนิค อื่นในการคลาย เครียดได้แก่ การใช้ฝ่ามือทั้งสองนวด โดยกางนิ้วออก นวดศีรษะเบา ๆ ไล่จากคางขึ้น ไปถึงหน้าผาก แล้วย้อนกลับ ลง มาที่ท้ายทอย คุณนวดที่หางตาได้ ด้วยเช่นกัน

27. ฝึกการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ วิธีนี้ช่วยลดภาวะตึงเครียด สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับ การนอนง่ายคือบังคับควบคุม ความรู้สึกของสายตาและ ไม่คิดอะไรอีกต่อไป ได้สำเร็จ ขณะ นอนหลับ สัมผัสทั้งห้าของเราถอดสายปลั๊ก ตามธรรมชาติ เริ่มต้น จากการมอง การรับกลิ่น การรับรส การสัมผัส และสุดท้ายการได้ยิน

28. อาบน้ำร้อน โดยค่อย ๆ เพิ่มอุณหภูมิให้สูงขึ้นจาก 35 ถึง 39 องศาเซลเซียส การทำเช่นนี้มี ปฏิกริยากล่อมประสาทให้ง่วงนอน (สำหรับแปดในสิบหน) คุณสามารถเติมสมุนไพร สกัดลงในอ่างน้ำร้อนได้ แต่เพื่อความเพลิดเพลิน เท่านั้น เพราะมีเพียงความร้อนเท่านั้นที่ ทำปฏิกริยา คุณเพียงแต่แช่ เท้าใน น้ำร้อน ก็ได้ ซึ่งจะต่อเนื่องถึง อุณหภูมิของร่างกาย และมีผลผ่อนคลายกลุ่ม ร่างแหเส้นประสาท หรือเส้นโลหิต หรือหลอดน้ำเหลือง ให้ปฏิบัติ ก่อนเข้านอน

29. เพียงแค่วางมือทั้งสองข้างบนหน้าท้อง ความร้อนจากมือช่วยผ่อนคลาย อวัยวะภาย ในช่องท้องที่ ขวางการไหลเวียนพลังงาน

30. อย่าคาดหมายล่วงหน้า พยายามอย่านึกคิดล่วงหน้าถึง การนัดหมาย สำคัญทาง อาชีพการงานใน วันรุ่งขึ้น แนวคิดคือเข้านอนดึกด้วย ความกังวลจะทำให้ คุณหลับ ไม่ลง

31. ผ่อนคลายตัวเองด้วยการหลับตาและจินตนาการถึงการอาบน้ำ ฝักบัวเย็น ฉ่ำ ที่ราดรด ลงมาจาก ศีรษะแล้วไหลไปตามลำคอ นำพาความเครียดทั้งวัน ที่ผ่านมาให้ไหลไป ตามทางน้ำ หรือใช้วิธีหายใจลึก ๆ อย่างรู้สติเป็นชุด ๆ ผสานกับการคิดแต่ในแง่ดี (“ฉันยอมหลับอย่างวางใจ” “ฉันรู้สึกผ่อนคลาย เต็มที่”)

32. สามชั่วโมงก่อนนอน บอกเลิกกิจกรรมทุกอย่างที่คร่ำเคร่งและใช้สติปัญญา หยุดอ่านหนังสือถ้ามัน จุดจินตนาการของคุณให้ทำงาน ผลักดันให้ฝันหรือ ใช้ความคิดใคร่ ครวญ

33. พยายามคอยสังเกตสิ่งที่คุณทำแล้วหลับได้สนิทดี จะได้นำมาใช้ใหม่ ในค่ำคืน ที่นอนไม่หลับสักที

ขอบคุณข้อมูลที่มา…heyhapartyblogspot